อนุมูลอิสระ สนิมร้ายที่แอบกัดกร่อนสุขภาพของคุณ




อนุมูลอิสระ ( Free Radicle ) คือ โมเลกุลหรืออะตอมที่ไม่เสถียรเนื่องจากขาด อิเลกตรอน ซึ่งโดยปกติในร่างกายของเรามีโมเลกุลหรืออะตอมที่มีอิเลคตรอนอยู่เป็นจำนวน คู่ ในกรณีที่ร่างกายมีการสูญเสียอิเลคตรอนจากการถูกอนุมูลอิสระแย่งจับ จะทำให้โมเลกุลของเซลล์ในร่างกายไม่เสถียร ขาดความสมดุล ซึ่งส่งผลทำให้เซลล์ร่างกายเสียหายได้

อนุมูลอิสระมาจากไหน?


แหล่ง ภายนอก ได้แก่ มลพิษในอากาศ โอโซน ไนตรัสออกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ ฝุ่น ควันบุหรี่ อาหารที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว  แสงแดด ความร้อน รังสีแกมม่า และแหล่งภายใน ได้แก่อนุมูลอิสระที่ร่างกายสร้างขึ้น
ตัวอย่างของอนุมูลอิสระ ได้แก่

     O2- Superoxide anion อนุมูลซุปเปอร์ออกไซด์
     OH- Hydroxyl radicle อนุมูลไฮดรอกซิล
     ROO Peroxy radicle อนุมูลเปอร์ออกซี
     H2O2 Hydrogen Peroxide ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
     Lipid Peroxyl, LO2   ลิปิดเปอร์ออกซี



อนุมูลอิสระเข้าไปทำลายเซลล์ได้อย่างไร
อนุมูล อิสระเข้าไปทำลายเซลล์ เมื่อร่างกายไม่สามารถผลิตหรือได้รับสารต้านอนุมูลอิสระเพียงพอที่จะไป ยับยั้งหรือไปจับอนุมูลอิสระได้ภายในเซลล์ของร่างกาย ผลคือทำให้เซลล์เกิดความเสียหายและนำไปสู่การเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง หัวใจและหลอดเลือด แก่ก่อนวัย ต้อกระจก และโรคอื่นๆ เช่น อนุมูลอิสระไปทำลายผนังหลอดเลือดแดง และเมื่อมีไขมันไปสะสมอยู่ในบริเวณหลอดเลือดแดงที่ถูกทำลาย จะทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในที่สุด  แต่ถ้าเราได้รับสารต้านอนุมูลอิสระเพียงพอ สารต้านอนุมูลอิสระเข้าไปป้องกันหรือแย่งที่จับกับอนุมูลอิสระ และนำอนุมูลอิสระเหล่านั้นไปทิ้งนอกเซลล์ ทำให้เซลล์ไม่ถูกทำลาย

ร่างกายจึงมีกลไกที่จะกำจัดสารอนุมูลอิสระได้ 2 วิธี คือ
1.    การใช้เอนไซม์ที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อจับกับอนุมูลอิสระ เช่นเอ็นไซม์ superoxide dismutase (SOD) เอ็นไซม์ catalase glutathione peroxidaes แต่ร่างกายมักสร้างไม่เพียงพอ เซลล์จึงเกิดการบาดเจ็บขึ้น และเมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น การสร้างสารต้านอนุมูลอิสระจะลดลง ในขณะที่อัตราการเกิดอนุมูลอิสระยังเท่าเดิม ผลที่ตามมาคือ ทำให้เกิดโรคต่างๆมากมาย

2. การได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจากอาหาร เช่นวิตามิน อี เบ้ตาแคโรทีน แอนโทไซยานิดิน (anthrocyanidin) สารประกอบโฟลีฟีนอลต่างๆ เช่น แทนนิน แคทซิชิน เป็นต้น นอกจากนี้ยังรวมถึงโคเอนไซม์คิวเท็น (CoenzymeQ10) หรือโคคิวเท็น (Co Q10) หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่ออื่นๆ เช่น  ยูบิควิโนน (Ubiquinone) โดยจัดเป็นสารจำพวกวิตามิน หรือคล้ายวิตามิน และมีอยู่ในทุกเซลล์ของร่างกาย ทำหน้าที่เป็นโคเอนไซม์ที่จำเป็นตัวหนึ่งในการเริ่มปฏิกิริยาเคมีเพื่อสร้าง พลังงาน ในร่างกาย จึงมีความสำคัญต่อกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหัวใจ เนื่องจากหัวใจต้องทำงานตลอดเวลา สำหรับบุคคลทั่วไป แม้ว่าร่างกายจะสร้าง   CoQ10 ได้เอง แต่ความสามารถนี้จะลดลง เมื่ออายุ 21 ปีขึ้นไป ในขณะที่ปริมาณที่ร่างกายต้องการกลับไม่ลดลง


จากข้อมูลในการทำ วิจัยเบื้องต้นพบว่า“สารต้านอนุมูลอิสระ” หรือ “แอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidant)” ซึ่งจะไปยับยั้งปฏิกิริยาออกซิเดชั่นได้ มีบทบาทที่สำคัญต่อการรักษาโรคทาลัสซีเมีย นอกจากนี้ CoQ10 ยังช่วยลด oxidative stress ทำให้มีการต้านอนุมูลอิสระได้ดียิ่งขึ้น และยังสามารถชะลอการเสื่อมของเซลล์สมองที่เกิดจาก oxidative stress โดย CoQ10 จะทำหน้าที่ stabilizing mitochondria membrane ด้วยเหตุนี้ CoQ10 จึงอาจเป็นทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยที่เกิดจากเซลล์สมองเสื่อม ได้แก่ โรคพาร์กินสัน โรค Friedreich's Ataxia


ซุปเปอร์ฟรุต ขุมทรัพย์แอนตี้ออกซิแดนท์จากธรรมชาติ


อนุมูลอิสระ สนิมร้ายที่แอบกัดกร่อนสุขภาพของคุณ

เชื่อ หรือไม่ว่า โรคร้ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคเส้นเลือดตีบ ไขมันในเลือด ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด เบาหวาน ความจำเสื่อมอัลไซเมอร์ อัมพฤกต์ อัมพาต ไขข้ออักเสบ ตับอักเสบ จนถึงโรคมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้คนทุกวันล้วนเกี่ยวข้องกับ “อนุมูลอิสระ” หรือ “ฟรี แรดิคัล (Free Radical)” ซึ่ง เป็นโมเลกุลที่มีความไวต่อปฏิกิริยาเคมี ร่างกายสร้างอนุมูลอิสระได้ ในปริมาณน้อยๆ จะให้ประโยชน์ได้หลายด้าน เช่น ภูมิต้านทานฆ่าเชื้อโรคแปลกปลอม แต่หากมีอนุมูลอิสระมากเกินไป อนุมูลอิสระจะไปทำร้ายโมเลกุลอื่นๆ ในร่างกาย เช่น โปรตีน ไขมัน ดีเอ็นเอ ในเซลล์ เนื้อเยื่อ ของอวัยวะต่างๆ ให้เกิดความผิดปกติ และเพิ่มจำนวนอนุมูลอิสระมากขึ้นเป็นวงจรปฏิกิริยาลูกโซ่อย่างต่อเนื่อง เรียกว่าปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) ซึ่งเปรียบได้กับสนิมที่เกิดแล้วก็ลุกลามกัดกร่อนโลหะจนเสียหาย เช่นเดียวกันเมื่อเนื้อเยื่อต่างๆ ค่อยๆ สะสมความเสื่อมอยู่เงียบๆ นานวันเข้าก็ถึงจุดที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ รวมถึงมะเร็ง และลุกลามจนเกินเยียวยา ทางเดียวที่จะต่อกรกับอนุมูลอิสระคือการใช้ “สารต้านอนุมูลอิสระ” หรือ “แอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidant)” ซึ่งจะไปยับยั้งปฏิกิริยาออกซิเดชั่นได้ ตั้งแต่เนิ่นๆ


แอนตี้ออกซิแดนท์ ซุปเปอร์ฮีโร่จากธรรมชาติ

ร่างกายสร้าง “สารต้านอนุมูลอิสระ” หรือ “สารแอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidant)” ได้จากอาหารที่เรากินเพื่อคุมไม่ให้มีอนุมูลอิสระมากเกินไป แต่ภาวะความเครียดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตในปัจจุบัน และ มลภาวะสิ่งแวดล้อม ทำให้ร่างกายอาจผลิตสารต้านอนุมูลอิสระมาต่อกรไม่ทัน การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตเช่น พักผ่อนให้เพียงพอ นอนแต่หัวค่ำ ออกกำลังกาย บริหารอารมณ์ไม่หงุดหงิดโกรธง่าย ไม่กินของทอดอมน้ำมัน ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มน้ำหวาน สุรา จะลดภาวะเครียด ลดการผลิตอนุมูลอิสระได้ และที่สำคัญที่สุดคือการกินสารแอนตี้ออกซิแดนท์ซึ่งมีอยู่ในพืชผักผลไม้ตาม ธรรมชาตินั่นเอง

ผลไม้บางชนิดถูกจัดว่าเป็น “ซุปเปอร์ฟรุต (Superfruit)” เพราะ พบว่ามีสารแอนตี้ออกซิแดนท์อยู่มากเมื่อเทียบกับผลไม้อื่นๆ ตัวอย่างของซุปเปอร์ฟรุตได้แก่ มาคิเบอร์รี่ แอปเปิ้ล องุ่น ทับทิม มะเขือเทศ กล้วย กีวี ฟักทอง อะโวคาโด เป็นต้น แต่ที่พบสารแอนตี้ออกซิแดนท์มากเป็นพิเศษคือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น อาซาอิเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ เชอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ ราสพ์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ใช้วิธีการทดสอบประสิทธิภาพการต้านอนุมูลอิสระที่เรียก ว่า ออแร็ค (ORAC) โดยนำสารสกัดผลไม้ชนิดต่างๆ ในปริมาณเท่ากัน มาทำปฏิกิริยากับสารพิษอนุมูลอิสระในห้องปฏิบัติการ แล้วเทียบว่าผลไม้ชนิดใดจะกำจัดอนุมูลอิสระได้ดีกว่ากัน ล่าสุดพบว่า “มากิเบอร์รี่ (Maqui Berry)” ซึ่งเป็นเบอร์รี่พื้นเมืองของประเทศชิลี ผลสีม่วงเข้ม อุดมด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ชื่อว่า เดลฟินิดิน มีประสิทธิภาพต้านอนุมูลอิสระได้สูงมากกว่า อาซาอิเบอร์รี่เกือบสองเท่า และมากกว่าทับทิม เกือบสามเท่า จึงเริ่มเป็นที่นิยมและสกัดมาใช้เป็นเครื่องดื่มแอนตี้ออกซิแดนท์เพื่อการ ต่อต้านอนุมูลอิสระ อย่างไรก็ตามแนะนำว่า สารแอนตี้ออกซิแดนท์ มีหลายชนิดและทำงานด้วยกลไกแตกต่างกันไป การจะให้ร่างกายได้รับประโยชน์เต็มที่ควรรับประทานผลไม้หลากหลายชนิดจะปก ป้องร่างกายได้ครอบคลุมมากกว่าการเลือกกินผลไม้เพียงบางชนิด การรวมผลไม้หลากหลายจะให้ค่าการต่อต้านอนุมูลอิสระ (ORAC) สูงขึ้น ซึ่งหมายถึงการปกป้องร่างกายจากการถูกอนุมูลอิสระทำร้ายได้ดีขึ้นนั่นเอง


ข้อมูลจาก ภก. ดร. พงศกรพัฒน์ อรุโณทยานันท์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาความรู้ผลิตภัณฑ์ระดับภูมิภาค ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค อะคาเดมี

ยู นิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค จึงได้แรงบันดาลใจ นำคุณประโยชน์ของมากิเบอร์รี่มาวิจัยและพัฒนา โดยผสมผสานคุณค่าผลมากิเบอร์รี่รวมกับส่วนผสมจากผักและผลไม้ที่มีคุณสมบัติ ให้สารต้านอนุมูลอิสระสูง ที่คัดสรรจาก 9 ประเทศ อีก 11 ชนิด ได้แก่ อาร์ติโช๊ค โกจิเบอร์รี อาซาอีเบอร์รี อะเซโรลาเชอร์รี องุ่นแดง โช๊คเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่  ราสพ์เบอร์รี แอปเปิ้ล สตรอเบอร์รี่ และเชอร์รี่ ผ่านขั้นตอนการผลิตที่ทันสมัย ถูกสุขลักษณะ เป็นผลิตภัณฑ์ “บียอนด์ มากิ พลัส (Beyonde Maqui Plus+)” ที่ให้คุณค่าการต้านอนุมูลอิสระสูง  ซึ่งจะช่วยส่งเสริมสุขภาพองค์รวมได้ในระยะยาว โดย บียอนด์ มากิ พลัส  ปริมาณ 25 มล. มีค่าการต้านอนุมูลอิสระเทียบเท่ามะเขือเทศ  1.5 กก. หรือมะนาว 250 ผล หรือกล้วย 40 ผล หรือชาเขียว  6 แก้ว”

การดูแลสุขภาพให้เตรียมพร้อมรับความท้าทายในชีวิต เป็นเรื่องสำคัญ เพราะ “สุขภาพดี ชีวิตดียิ่งกว่า”


https://www.avianceshop.com/catalog/product/view/id/4/s/beyonde-maqui-plus-case/category/38/?promo_code=TH3112120

https://www.avianceshop.com/catalog/product/view/id/4/s/beyonde-maqui-plus-case/category/38/?promo_code=TH3112120

 ราคาปกติ:     ฿ 13,070.00 

ราคาสมาชิก: ฿ 9,800.00

 https://www.avianceshop.com/beyonde-maqui-plus-duo/?promo_code=TH3112120

   https://www.avianceshop.com/beyonde-maqui-plus-duo/?promo_code=TH3112120 

ราคาปกติ:     ฿ 4,400.00
ราคาสมาชิก: ฿ 3,300.00


 https://www.avianceshop.com/catalog/product/view/id/96/s/beyonde-maqui-plus-single/category/38/?promo_code=TH3112120

 https://www.avianceshop.com/catalog/product/view/id/96/s/beyonde-maqui-plus-single/category/38/?promo_code=TH3112120

ราคาปกติ: ฿ 2,400.00 ราคาสมาชิก: ฿1,800.00 

https://www.avianceshop.com/beyonde-maqui-plus-gift?promo_code=TH3112120

https://www.avianceshop.com/beyonde-maqui-plus-gift?promo_code=TH3112120

  ราคาปกติ: ฿  1,270.00
ราคาสมาชิก: ฿ 950.00




1-3




เรื่องน่าสนใจอื่นๆ....


http://succeedunilever.blogspot.com/2015/10/7-1.html
ffkjkj

succeedunilever.blogspot.com/2015/10/7.html
http://maquipius.blogspot.com/
http://succeedunilever.blogspot.com/2015/10/6-eq-1.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น